สวัสดีค่ะ เดือนเมษาที่ผ่านมาเป็นเดือนแห่งการปั้นจริง ๆ ลงเวิร์คชอปไปแบบจัดเต็ม
คราวนี้เป็นเอนทรี่รีวิวเวิร์คชอปสุดท้ายละ เพราะยังไม่ได้ลงอะไรเพิ่ม ทิ้งช่วงไปปั่นงานก่อน ไว้ว่าง ๆ จะหาเวิร์คชอปลงอีกค่ะ สนุก
เวิร์คชอปเอนทรี่นี่เป็นเวิร์คชอปปั้นเซรามิกแบบขึ้นรูปด้วยมือ ไม่ได้ใช้แป้นหมุน
ชื่อคอร์ส อบอุ่นละมุนดิน ของ charm learn studio
เป็นคอร์ส 3 วันสุดสัปดาห์ 10.30 – 16.30 มีพักทานข้าว แต่ไม่มีน้ำและขนมให้
ราคาแบบเวิร์คชอปทั่วไปสมัยนี้ 6000 บาท (เฉลี่ยตกวันละ 2,000 บาท) แต่ได้ความรู้มาเยอะมากเลยนะ ไปดูกันค่ะว่าเราได้อะไรมาจากเวิร์คชอปคราวนี้บ้าง!
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
- ทฤษฏี -
เราเคยปั้นเซรามิกไปครั้งหนึ่งตอนเด็กมาก ๆ ค่ะ แบบประถม ตอนนั้นเรียนศิลปะที่บ้านแล้วคุณครูเอามาให้ปั้นเล่น หลังจากนั้นก็ห่างหายไปจากเซรามิก ไม่ได้แตะอีกเลยจนกระทั่งไปลงเวิร์คชอปปั้นดินบนแป้นหมุนคราวที่แล้วนี่ล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นสกิลปั้นเซรามิกของเราจะแทบเท่ากับศูนย์ ครั้งนี้ก็เริ่มจากเบสิกเลย

ช่วงเช้าของคลาสวันแรกจะเป็นทฤษฎีเกี่ยวกับดินและเทคนิคการปั้นโดยรวมค่ะ เริ่มจากดูตัวอย่างผลงานเซรามิกต่าง ๆ และเรียนรู้ว่ามีดินแบบไหนที่ใช้ในการปั้นผลงานเซรามิกบ้าง
ตามด้วยข้อมูลเรื่องการเผาเคลือบเซรามิก เราก็จะได้รู้ว่ามีการเผาไฟหลายระดับ และผลงานที่ได้ออกมาก็จะต่างกัน นอกจากนั้นยังมีเทคนิคการเผาที่ต่างกันออกไป การเผาแบบมีสโมคจะทำให้ผลงานมีความขุ่นและสีเปลี่ยนไปได้ อะไรแบบนี้
แล้วก็มีเรื่องสีที่ใช้เพนท์ผลงานเซรามิกอีกเล็กน้อย ซึ่งระหว่างการอธิบายทุกขั้นตอนผู้มาเรียนสามารถจดข้อมูลได้ตามสบาย เราก็จดไว้เยอะแต่ไม่กล้าอธิบายละเอียดมาก กลัวสรุปข้อมูลผิด แนะนำให้ไปฟังในห้องเรียนดีกว่าค่ะ แหะ
σ(´ x `;*)

จากนั้นก็ตามด้วยเปิดสไลด์อธิบายทฤษฎีเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับการปั้นดินและทำลวดลายเซรามิก ในส่วนของสไลด์จะงดอัดเสียงอัดวีดีโอแต่จดข้อมูลได้เหมือนเดิมค่ะ

เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมดิน นวดดิน วิธีการนวด นวดไปทำไม และวิธีการขึ้นรูปซึ่งก็มีหลายเทคนิคทั้ง ขึ้นรูปด้วยมือด้วยการบีบ ขด รีดเป็นแผ่น และขึ้นรูปด้วยแป้นหมุน
จากนั้นก็เป็นเทคนิคการลงสีต่าง ๆ ซึ่งมีเยอะมาก ไม่ว่าจะพู่กันทา ทำลายหินอ่อน ทำลายด้วยสแตมป์ หยอดสี ขูดให้เกิดรอย ขัดเงารมควัน โอ๊ย เยอะมากกกค่ะ ตัวอย่างแต่ละงานก็สร้างไอเดียให้กับผลงานที่เราอยากจะทำได้อย่างดีเลย
พอลงสีแล้วก็จะต่อด้วยเรื่องการเผา เตามีแบบเตาไฟฟ้า เตาแก๊ส เตาฟืน เผาแบบรากุ ซึ่งเหมาะกับผลงานที่ต่างกัน ความยากง่ายก็ไม่เท่ากัน อย่างเตาฟืนนี่เราต้องรู้จักต้นไม้ แยกฟืนให้เป็น วางผลงานให้เปลวไฟไหลผ่านได้ อยู่กับมัน 3 วัน 3 คืน คือ โอ้โห มิน่าทำไมงานอาร์ตมันถึงแพง
สรุปแล้วในส่วนทฤษฏี เราจะได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเซรามิกค่อนข้างกว้างแต่ข้อมูลจะมีแค่คร่าวๆเท่านั้นไม่เจาะลึกค่ะเหมาะกับนักปั้นมือใหม่ดีเพราะบางคนก็มาเพราะอยากปั้นอย่างเดียวไม่ได้อยากรู้ทฤษฎีก็มี

แต่เราชอบฟังทฤษฎีนะ เพลินดี
พอจบเรื่องทฤษฎีแล้ว เราก็จะได้ปั้นกันจริง ๆ แล้วล่ะค่ะ!
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
- นวดดิน -
ทุกคนในคลาสจะได้รับดินคนละหนึ่งก้อนใหญ่ ๆ สำหรับใช้ผลิตผลงานตลอดเวิร์คชอปครั้งนี้ ใครใช้ไม่หมดก็นำกลับไปปั้นต่อที่บ้านได้ เพราะที่ชามเริญรับเผาให้ด้วยค่ะ
ดินที่ได้คือก้อนเท่านี้

เริ่มจากนวดดิน การนวดดินมีความสำคัญมากเพื่อคลุกเคล้าส่วนผสมและรักษาอุณหภูมิให้เท่ากัน และไล่ฟองอากาศ ถ้ามีฟองอากาศในดิน ตอนไปเผาผลงานอาจจะระเบิดได้ เพราะดินหดตัวแต่อากาศขยายตัว… แถมผลงานข้าง ๆ ก็จะโดนลูกหลงระเบิดตามไปด้วย…
งานนี้เราไปปั้นกับพี่ชายและแฟนพี่ ปั้นไปก็ระแวงงานคนข้าง ๆ ไปว่าตอนเผาจะระเบิดมั้ย เพราะปั้นกันแบบมือใหม่มาก

ในคอร์สเราจะได้เรียนรูปการนวดดินแบบเขาควายใครมือใหญ่ก็นวดทีเดียวใครมือเล็กก็แบ่งดินออกมาครึ่งก้อนแล้วนวด เป็นการใช้มือสองข้างประคองดินแล้วเอาอุ้งมือแถวๆนิ้วโป้งกดลงไปยกขึ้นมาแล้วกดลงไปอีกเรื่อยๆ
ทำไปค่ะ 50 ครั้ง…
อย่างเมื่อยยยย รู้สึกได้ออกกำลังกายในรอบหลายเดือน
จากนั้นก็คลึงดินเป็นก้อนกลม ๆ แล้วใช้ลวดตัดดิน ตัดออกมาเป็นแผ่นหนาประมาณ 1 เซนต์ค่ะ ถ้าเจอรูอากาศหน้าตาเหมือนพริกในโบโลน่าก็ใช้นิ้วกดลงให้มันหายไป ตัดมันไปเรื่อย ๆ ทั้งก่อน แล้วเอาดินมารวมกัน(ทาน้ำแต่ละชั้นด้วย) แล้วก็นวดใหม่…
นวดไปอีกจ้า 30 ครั้ง
กลับบ้านมาได้นวดแขนตัวเองต่อ
ตัดออกมาดูอีกรอบ คราวนี้ตัดครั้งเดียวก็ได้ ถ้าไม่มีฟองอากาศเป็นอันใช้ได้ค่ะ เอาดินไปขึ้นรูปกันได้เลย!
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
- สร้างผลงาน -
คอร์สนี้เราเรียนการขึ้นรูปด้วยมือเทคนิคแรกที่ใช้คือการปั้นดินให้เป็นกลม ๆ แล้วใช้นิ้วโป้งค่อย ๆ กดไปตรงกึ่งกลางกดลงไปให้เป็นฐาน จากนั้นถึงค่อย ๆ บีบรอบ ๆ ขึ้นมาให้เป็นทรงกระบอก
แรกสุดทุกคนต้องปั้นแก้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่คุมดินดี ๆ มันก็จะบานออกกลายเป็นชาม เย้… อาจารย์ก็จะคอยช่วยทุกคนค่ะ
พอปั้นเสร็จปุ๊บ ผลงานชิ้นแรกของทุกคนก็จะโดนผ่าครึ่งแบบนี้!!!!

จะได้ดูว่าเราปั้นความหนาเท่ากันมั้ย ควรแก้ตรงไหนในครั้งต่อไป อย่างเช่นของเราตรงก้นแก้วยังปั้นได้ไม่ดี ตอนเผาอาจจะแตกได้
แล้วก็ปั้นใหม่…..
ความพยายามข้าพเจ้า….
แต่ปั้นใหม่ก็จะจับเทคนิคได้มากขึ้นออกมาเป็นแก้วที่น่ารักได้ค่ะ!

นอกจากนั้นก็ได้เรียนรู้วิธีการขึ้นรูปด้วยการขด และวิธีรีดดินให้บางด้วยค่ะ เอามือจุ่มน้ำเปียก ๆ มารูด ๆ ดินให้เป็นแท่งแบน ๆ ยาว ๆ สนุกดี
มีเวลาเหลือในวันแรกหลังปั้นแก้วก็ปั้นอะไรตามใจชอบได้เลย เราปั้นช้อนกับส้อมไปด้วยวิธีรีดดิน แถมด้วยตุ๊กตาประดับห้องหนึ่งตัว
นี่คือผลงานทั้งหมดในวันนี้แรกค่ะ

คือเอาจริง ปั้นเซรามิกยากมาก… ทุกอย่างยากกว่าที่คิด เข้าใจเลยทำไมงานเซรามิกถึงมีราคา ใช้ทักษะและความชำนาญทั้งนั้น
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
วันที่สอง อาจารย์สอนวิธีการปั้นงานเซรามิกโดยใช้เทคนิครีดดินเป็นแผ่น แล้วก็ตัดตามทรงที่อยากได้ เอามาประกอบกัน งานจะเนียน ๆ น่ารัก ๆ

หลังจากนั้นก็ปั้นอะไรตามใจชอบได้เลย!
จะชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวก็ได้ ชิ้นเล็กหลายชิ้นก็ได้
ส่วนเรานั้น
เนื่องจากเคยปั้นฟิกเกอร์ด้วยดินญี่ปุ่นในคลาสเรียนมา… ตัวนี้
เลยอยากลองปั้นฟิกเกอร์ด้วยดินเซรามิกดูบ้าง! มีความงานช้างมากๆ!

ปั้นแค่ช่วงหัวถึงไหล่ค่ะ ปั้นทั้งตัวไม่ไหว ยิ่งตัวเล็กยิ่งเก็บรายละเอียดยาก ดินก็ไม่พอ เวลาก็ไม่พอ แค่หัวก็พอแล้วว
เริ่มจากขึ้นโครงหลัก ๆ ก่อน ไหล่ คอ คือเซรามิกต้องด้านในกลวงไม่งั้นเดี๋ยวตอนเผาแล้วระเบิด ทำให้ขึ้นรูปยากมากค่ะ ดินยวบยาบ ได้อาจารย์ช่วยเยอะ พอได้ไหล่กับคอแล้วก็ต้องปล่อยทิ้งไว้ให้ดินเซ็ตตัว ตอนต่อหัวจะได้ไม่ยวบ

ระหว่างรอก็ปั้นหัว ตอนแรกได้เป็นรูปกลม ๆ ได้อาจารย์ช่วยศัลยกรรมเป็นหน้าวีเชปให้ ฮ่า ๆ ๆ แล้วเอามาต่อกับตัว
ฟังดูง่ายน่ะ แต่ใช้เวลาไปกับมันนานมาก ตบตียันบ่ายโมงกว่าถึงจะได้กินข้าวกลางวัน แถมกลับมาดินก็แตกเป็นริ้ว ๆ ต้องมาเก็บให้เรียบอีก

แต่พอได้โครงที่แข็งแรงแล้ว ที่เหลือคือความสนุกค่ะ โปะผม โปะหน้า โปะเพลินมากไม่กลัวระเบิดในเตาเลย… ศัลยกรรมแข่งกับเวลาเพราะต้องเผื่อเวลาไปลงสีผลงานด้วย (ความจริงคลาสเลิกสี่โมงครึ่งแต่กว่าจะเลิกกันจริงๆปาไปหกโมงนู่นนค่ะ)
แต่พอปั้นเสร็จแล้วก็ค่อนข้างภูมิใจเลย!

แล้วก็ปิดท้ายด้วยการเจาะรูอากาศแบบเนียน ๆ รอบ ๆ ผลงาน (ใต้ซอกผมอะไรแบบนี้) แล้วก็ใต้ผลงาน เพื่อที่จะได้ระบายอากาศตอนเผา ที่เหลือก็ปล่อยให้แห้ง เป็นอันเรียบร้อย!
ทุลักทุเลแต่ภูมิใจมากก รอลุ้นตอนเผากันอย่างเดียว
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
- ลงสีและเคลือบ -
เย็นวันที่สองเราก็นำผลงานที่ปั้นทั้งหมดสองวันแรกมาลงสีค่ะ สีจะเป็นสีผสมน้ำดิน ซึ่งมันจะดูน้ำตาลไปหมด ต้องดูจากตัวอย่างและฝากล่องเอาว่ามันเป็นสีอะไร เผาแล้วจะได้ออกมาแบบไหน ใช้จินตนาการขั้นสูงมาก…

ต้อลงสีไปดูตารางสีไป

ตอนลงก็ลงซัก 2 – 3 ชั้นจะได้เรียบเนียน และต้องล้างพู่กันให้สะอาดก่อนเปลี่ยนสีด้วยค่ะ
ผลงานที่ลงเสร็จเรียบร้อยก็ออกมาเป็นแบบนี้!
ดูไม่ออกเลยว่าเผาแล้วจะเป็นยังไง…

ต้องไปลุ้นสัปดาห์ถัดไปที่เราจะเรียนเคลือบกัน!
แต่สรุปแล้วได้ลุ้นก่อนไปเคลือบค่ะ ฮ่าๆ ๆ เพราะทางเวิร์คชอปส่งรูปมาให้ดูทางไลน์เลยว่าเผาแล้วออกมาเป็นยังไงบ้าง UvU,, ในการเผาครั้งแรกนี้สีที่ได้จะยังไม่เข้มมาก ออกแนวพาสเทล ดินตอนนี้จะแตกง่ายมากต้องหยิบจับอย่างเบามือ หลังจากนำไปเคลือบแล้วเผาอีกทีด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นถึงจะเป็นสีของชิ้นงานจริง ๆ ค่ะ

สีพาสเทลแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ บางทีก็อยากให้สีหยุดแค่นี้ ฮ่าๆ ดินดำ ๆ ที่ปั้น พอเผาออกมาก็ขาว ๆ ครีม ๆ แบบนี้เลย

◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
วันที่ไปเคลือบใช้เวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้นค่ะ จบไวมาก คือแค่หนีบงานด้วยสองนิ้วแล้วก็จุ่มลงไปในสารเคลือบสีขาว เป็นสารเคมีผสมหลาย ๆ อย่างพอเผาแล้วถึงเป็นสีใสค่ะ พอเคลือบแล้วก็ปล่อยให้แห้ง เอานิ้วแตะ ๆ เติมน้ำยาเคลือบตรงที่ ๆ ใช้นิ้วหนีบ จากนั้นก็เอาฟองน้ำหมาด ๆ เช็ดก้นชิ้นงานค่ะ ตรงที่จะวางลงบนเตาเผา ถ้าไม่เช็คสารเคลือบที่มีส่วนผสมของแก้วจะละลายติดที่วางแล้วก็เจ๊ง…
ก่อนเคลือบก็ต้องอย่าลืมคนน้ำยาเคลือบเพราะมันตกตะกอนง่ายมาก ตอนทำก็ให้คนอื่นช่วยคนและกวาดฟองออกค่ะ ช่วย ๆ กัน

เคลือบออกมาแล้วขาวจ๊วะมองไม่เห็นสีเลย
แค่นี้ผลงานเซรามิกอันแสนน่ารักก็เสร็จเรียบร้อย!! เหลือเอาไปเผาครั้งสุดท้าย แล้วทางเวิร์คชอปจะไลน์มาบอกให้มารับของอีกทีค่ะ น่าจะต้องรอประมาณหนึ่งสัปดาห์ เป็นการลุ้นครั้งสุดท้ายแล้ว ขอให้ออกมาสวย ๆ งาม ๆ ด้วยเถอะ!
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
และแล้ว ในที่สุด หลังจากที่รอมานาน!!
ผลงานก็เผาเสร็จเรียบร้อยค่ะ
ออกมาตามนี้เลย แท่นนแท๊นนนน

เงางาม ~ ไม่แตกซักชิ้น เห็นแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกเลยค่ะ ฟู่ว
งานนี้เราลงสีไม่เยอะ ส่วนใหญ่เลยออกมาขาว ๆ ช้อนกับส้อมก็บิด ๆ เบี้ยว ๆ ดี ยังไม่ได้ทดลองใช้ แต่คิดว่าน่าจะพอใช้ได้(…)
ส่วนนี้เป็นผลงานของพวกพี่ชายที่ไปเรียนด้วยกันค่ะ เราช่วยลงสีด้วย

แล้วก็ อย่างสุดท้าย ของพี่ชายค่ะ แต่เราพราวลี่พรีเซนต์มาก
ที่ใส่น้ำให้แมว!!!!
แมวกินด้วย!!!

แค่แมวยอมกินก็พอใจแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆ ถือว่าประสบความสำเร็จ
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
สำหรับเอนทรี่ปั้นดินนี้ ก็คงจบเพียงเท่านี้
ถ้าถามเราว่าคุ้มค่ากับราคามั้ย เราว่าคุ้มนะ ได้ทักษะใหม่ที่ไม่เคยได้ลองมาก่อน เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ดีไม่ดีอาจจะได้งานอดิเรกเพิ่มด้วย
ใครที่สนใจก็ลองไปเรียนดูกันได้นะคะ!
เอนทรี่ก่อนหน้านี้เคยเขียนเกี่ยวกับเวิร์คชอปแบบแป้นหมุนไว้ด้วย ไปดูได้เช่นกันค่ะ
ไว้เจอกันเอนทรี่หน้า (คงไม่ใช่รีวิวเวิร์คชอปแล้ว ขอกลับมาเป็นหมีติดบ้าน)
ขอบคุณที่อ่าน สวัสดีค่า